no need to make sense.

แม่ถามว่า ทำไมไม่เอาอย่างโปรเมย์…

กะว่าจะเขียนเรื่องกอล์ฟแบบเป็นเรื่องเป็นราวตอนตัวเองตีสกอร์ break 100…แต่คือ ไม่รู้เมื่อไหร่ เลยไม่รอละ

คืองี้…พอดีเมื่อเช้า แม่ได้ยินข่าวโปรเมย์ชนะรายการ US Open 2018 แล้วแม่ถามว่า “ทำไม ไม่เอาอย่างเค้าบ้าง?”

หือ! เค้าไหน? เค้าคือโปรเมย์?

คือยังไงดีอะ จะบอกแม่ว่า ม๊า!! หนูตีสกอร์ดีสุด 106

เดี๋ยวแม่ก็งงอีก เพราะแม่ยังไม่รู้เลยว่าตี 106 คือดีหรือไม่ดี ก็เลยตอบไปแค่ว่าโปรเมย์เค้าซ้อมหนักมากนะม๊า!!!

แม่ก็ทำหน้าเหมือนคนซื้อหวยไม่ถูกไปอีก

ก็เลยคิดเล่น ๆ ว่า ขนาดแม่เรายังอยากให้เราเป็นแบบโปรเมย์ แล้วแม่คนอื่นล่ะ?

พ่อ แม่ของเด็กที่ส่งลูกเรียนกอล์ฟ หรือเด็กไทยที่รักกีฬากอล์ฟและกำลังมุ่งมั่นอยากเป็นโปรกอล์ฟ เค้าก็ต้องอยากประสบความสำเร็จแบบโปรเมย์กันทั้งนั้นรึเปล่า ?

ถ้าอย่างงั้น มันจะเป็นไปได้มั้ยที่อนาคตประเทศไทยจะมีแบบโปรเมย์อีกหลาย ๆ คน

ถ้าเป็นเรื่องกอล์ฟ ไม่ว่าจะมุมไหน เกดว่าคนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดน่าจะเป็นโปรสอนกอล์ฟของเกด และของอีกหลายๆคน… พี่แจ๊ค

หรือโปรแจ๊ค วรพล มาอุทธรณ์ 

 

*โปรแจ๊ค วรพล มาอุทธรณ์ Thai PGA Teaching Professional เทรนจากโค้ช US PGA จบ Titleist Performance Institute ( TPI ) level 3 ขั้นสูงสุด มีไม่เกิน 4-5 คนในเมืองไทย แล้วก็ Visio54 ceritfied มีคนเดียวในไทย

 

ประเทศเราจะมีนักกอล์ฟเก่ง ๆ แบบโปรเมย์อีกหลาย ๆ คนได้มั้ย ?

มีได้ แต่อาจจะไม่เยอะเท่าฝรั่งหรือเกาหลี เพราะเกาหลีขยันกว่าเยอะ เชื่อฟังโค้ช ให้ทำอะไรก็ทำ ไม่มีบ่น ส่วนอเมริกา อาจจะเก่งช้า แต่ไปได้สุด ได้นาน เพราะเด็กฝรั่งจะอยากเล่นเอง ไม่ถูกบังคับ ไม่ใช่ว่าเด็กไทยไม่มีวินัย หรือไม่ขยันนะ คือก็ขยัน แต่เกาหลีขยันกว่า

 

เห็นคนมาเรียนกอล์ฟกับพี่แจ๊คเยอะมากบางคนก็เห็นว่าตีดีจะตาย แล้วจะมาเรียนทำไมกันอีก?

เพราะเค้าอยากพัฒนาและทำให้คงที่ ไม่งั้นโปรเมย์ จะยังมีโค้ชอีกทำไม

 

*โปรเมย์กับโค้ช Gary Gilchrist

 

ก็เลยถามพี่แจ๊คต่อว่า ถ้างั้นอะไรทำให้เราเล่นกอล์ฟไม่พัฒนาสักที ?

แล้วพี่แจ๊คก็หายไปสักพักใหญ่ ๆ จนในที่สุด พี่แจ๊คก็ตอบกลับมา…

พระเจ้า! ยาว มว๊ากกก!!! นึกว่าโปรแกรมทัวร์ยุโรป 12 วัน 4 ประเทศ!!

 

ที่ไม่พัฒนาก็เพราะ…

อย่างแรกเลยคือ แก้ไม่ถูกจุด มักจะเกิดขึ้นบ่อยกับนักกอล์ฟที่ เล่นเองโดยที่ไม่มีใครสอน การแก้สวิงด้วยตนเองโดยไม่มีโปรที่ชำนาญ เกี่ยวกับเรื่องสวิง มักจะทำให้นักกอล์ฟพยายามหาทางแก้หรือฝึกฝนในจุดที่ไม่ถูกต้องซึ่งนั่นก็มักจะทำให้การพัฒนาวงสวิงของนักกอล์ฟไม่มีการพัฒนา ยิ่งไปกว่านั้น อาจจะทำให้เกิดท่าที่ผิด และติดเป็นนิสัยสวิงที่ผิด

 

อย่างที่ 2 คือ เปลี่ยนจุดแก้ไปเรื่อยๆ

คือนักกอล์ฟก็จะพยายามลองใช้หลายๆวิธีเพื่อให้ตัวเองตีได้ วันนี้อาจจะรู้สึกว่าทำท่านี้แล้วตีดีขึ้น แต่วันต่อมาก็หาสวิงไม่เจอ ออกรอบก็ตีไม่ได้ วันต่อมาก็ลองท่าสวิงใหม่แล้วก็อาจจะสวิงได้ดีอีก วันต่อมาก็หาสวิงไม่เจออีกแล้ว มันก็จะวนอยู่กับวงจรแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกสาเหตุหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือ พยายามแก้ทีเดียวหลาย ๆ จุด ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นเวลาที่นักกอล์ฟพยายามที่จะแก้อะไรหลาย ๆ จุดในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะทำให้นักกอล์ฟต้องคิดอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ตีช็อตนึง ก็คิดถึงท่าสวิงไปประมาณ 4-5 อย่างในเวลาเดียวกัน นั่นยิ่งจะทำให้เกิดความคิดที่ยุ่งยากและนำไปสู่ความเกร็งในวงสวิง

 

อย่างที่ 3 คือ ไปทำตามคนอื่น

ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้น บ่อยมากกับคนที่ชอบดูรายการกอล์ฟ อ่านหนังสือกอล์ฟ แล้วก็นำมาทำตาม การทำแบบนี้จะเปรียบเทียบได้ง่าย ๆ กับ การกินยาไม่ถามหมอ สิ่งที่ไปดูมาจากสื่อต่าง ๆ อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เจออยู่ในตอนนั้น หรือนักกอล์ฟหลายท่านก็มักจะชอบฟังสิ่งที่เพื่อน ๆ บอก ซึ่งสิ่งที่เพื่อน ๆ บอกก็มักจะบอกตามความรู้สึกของแต่ละคน คนนั้นบอกให้ทำแบบนั้น อีกคนบอกให้ทำแบบนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้เกิดความสับสนและมักจะไปจบที่ปัญหาข้อที่ 2 ที่กล่าวมาแล้ว ก็คือวงจร เปลี่ยนจุดแก้ไปเรื่อยๆ 

 

อย่างที่ 4 ใจร้อน ไม่แก้ให้หายขาด

ข้อนี้มักจะเกิดขึ้นกับนักกอล์ฟที่ ได้เรียนและเข้าใจกับปัญหาที่ต้องแก้ในสวิงแล้ว แต่อาจจะใจร้อนและไม่ยอมซ้อมให้สิ่งที่กำลังแก้อยู่หายขาด บางคนคิดว่าดีขึ้นแล้ว ก็เลยไม่ใส่ใจซ้อมจุดนั้นต่อ หรือไม่ก็ใจร้อนไปทำสิ่งอื่นเพิ่ม ผลที่ตามมาก็คือกลับมาผิดในเรื่องเดิม ๆ ซึ่งการแก้หรือการปรับของแต่ละคนอาจจะใช้เวลาไม่เท่ากัน บางคนใช้เวลาไม่นานในการทำให้หายขาด แต่บางคนใช้เวลานานกว่า ฉะนั้น เมื่อไหร่ที่เราสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ถูกต้องโดยที่ไม่ต้องคิดถึงมัน หรือเรียกว่าทำถูกจนเป็น Automatic move แล้วนั่นแสดงว่าเริ่มหายขาดแล้ว

 

ข้อต่อมาคือ มัวแต่คิดถึงเรื่องสวิง ไม่เคยซ้อมเหมือนเล่นจริง

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า สิงห์สนามซ้อม หมูสนามจริง สิ่งนี้มักจะเกิดขึ้นกับนักกอล์ฟที่มัวแต่ซ้อมและคิดถึงแต่สวิง และสามารถตีได้ดีในสนามซ้อม แต่กลับไม่สามารถทำสกอร์ได้ดีในสนามจริง เนื่องจากนักกอล์ฟคนนี้ไม่เคยซ้อมให้เหมือนตอนเล่นจริง เช่น มีเป้าในแต่ละช็อตที่จะตีไป เปลี่ยนเหล็ก เปลี่ยนเป้าหมาย สร้างสถานการณ์ให้รู้สึกเหมือนตอนเล่นจริงในสนามกอล์ฟยิ่งขึ้น เพราะตอนที่เราออกรอบในสนามจริงนั้น เราจะไม่สามารถมัวแต่คิดถึงแต่เรื่องสวิงได้ เพราะมันมีเรื่องเป้าหมาย รวมถึงเรื่อง course management ด้วย หรือถ้าโชคดีสนามที่ซ้อมมีหญ้าจริง ๆ ให้ตี นั่นจะยิ่งช่วยให้รู้สึกถึงการตีที่เหมือนจริงได้ดี สิ่งเหล่านี้จะช่วย ให้เราคุ้นเคยกับการไปเล่นในสนามจริงและทำสกอร์ได้ดีขึ้น

 

*ถ้าเข้าใจในวงสวิงของกอล์ฟ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น พี่แจ๊คกล่าว

 

ข้อที่ 6 ทัศนะคติไม่ดี

การมีทัศนะคติที่ดีในการเล่นกอล์ฟนั้นสำคัญมาก หลาย ๆ คนแม้กระทั่งนักกอล์ฟมือดี ๆ อาจจะไม่สามารถพัฒนาไปได้ถึงที่สุด เพราะทัศนะคติที่ไม่ดี เช่น ชอบคิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก ตัวเองไม่เก่งพอ ความเชื่อมั่นน้อยเกินไป ย้อมแพ้ง่ายเกินไป บางคนก็เป็นแบบ perfectionist คือทุกอย่างต้องถูกหมด รับไม่ได้กับการผิดพลาด นักกอล์ฟประเภทนี้มักจะคิดมากและทำสกอร์ได้ไม่ดี เพราะเมื่อเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็จะเกิดอารมณ์หงุดหงิด ทำให้ช็อตต่อ ๆ ไปที่จะเล่นเกิดความผิดพลาด มีครั้งนึง เคยไปออกรอบกับนักเรียน เป็น shot ที่มีน้ำอยู่ข้างหน้า ซึ่งเราก็บอกนักเรียนว่า ตีข้ามน้ำไปเลย  แต่เด็กไม่กล้าตี ถามว่าทำไม? เด็กบอก เพราะพ่อไม่ให้ตี เดี๋ยวลูกกอล์ฟตกน้ำ เปลืองลูก… สุดท้ายพอโตมาเด็กก็จะกลัวการตีข้ามน้ำ

 

*พี่แจ๊คกับลูกศิษย์ น้องภู ตอนไปแข่ง U.S.Kids Golf World Championship 2016 

 

ข้อที่ 7 ไม่ออกกำลังกายเพื่อพัฒนาส่วนอื่นๆ

นักกอล์ฟหลาย ๆ คนไม่รู้ว่าร่างกายตนเองมีจุดอ่อนตรงไหน หรือมีตรงไหนไม่แข็งแรงบ้าง  บางคนมีสวิงที่ดีอยู่แล้ว แต่ไม่มีร่างกายที่แข็งแรง หรือกล้ามเนื้อที่จำเป็นสำหรับการสวิงกอล์ฟไม่แข็งแรง บาลานซ์ไม่ดี หรือยืดหยุ่นไม่ดีพอเป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มักจะทำให้นักกอล์ฟไม่สามารถพัฒนาสวิงต่อได้

 

*กอล์ฟเป็นกีฬาที่ไม่เพียงแต่ต้องมี skill เท่านั้น แต่ต้องใช้ทั้งความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ balance รวมถึง speed และ power อีกด้วย

 

เสน่ห์ของกีฬากอล์ฟที่กีฬาอื่นไม่มี

กอล์ฟเป็นกีฬาที่ได้อยู่กับธรรมชาติ  และมีความท้าทายมาก เพราะกอล์ฟ เล่นกี่ครั้งก็ไม่เหมือนเดิม ต่อให้ตีสนามเดิมหรือสนามใหม่ ก็ตีไม่เหมือนเดิมทุกครั้ง เป็นกีฬาที่มีปัจจัยทั้งจากภายนอกและจากตัวเองมาเกี่ยวข้องเยอะมาก ซึ่งหาไม่ได้จากกีฬาอื่น

 

 

Processed with VSCO with k1 preset

*สนามกอล์ฟในเมืองไทยสวย ๆ เยอะมาก นี่คือสนามแรกที่เกดออกรอบ สันติบุรี คันทรี่คลับ เชียงราย ภายในปีนี้ต้องกลับไปตีอีกให้ได้

 

สอนกอล์ฟมา 12 ปี มีmoment ไหนประทับใจที่สุดในอาชีพนี้บ้าง

ก็คงจะเป็น moment ที่นักเรียนตัวเองทำสกอร์ได้ดีที่สุดในชีวิตของนักเรียนแต่ละคน จริง ๆ มีหลาย moment เช่นโปรที่เราสอนแล้วไปชนะรายการแรกในชีวิต หรือ moment ที่นักเรียนโทรมาบอกว่าตี square par ได้ครั้งแรก มีอันนึงดีใจมากหน่อยก็คือ เคยสอนผู้หญิงชาวเยอรมัน ชื่อ Ruth อายุ 87 แล้วเค้าไม่ได้ตีสกอร์ต่ำกว่า 120 มานานมากแล้ว หลังจากเค้ามาเรียน เค้าก็ตีต่ำกว่า 120 ได้ แล้วเค้าก็ดีใจมาก เค้ามาบอกกับแจ๊กว่า ” ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะตีได้แบบนี้ ” จำได้เลยว่าตอนที่เค้ามาบอกนี่ น้ำตาจะไหล ป่านนี้เค้าคงอายุ 90 กว่าแล้ว เค้าไม่กลับมาเมืองไทยแล้ว หวังว่าเค้ายังแข็งแรงพอที่จะตีกอล์ฟอยู่ หลายคนชอบบอกว่า ผมแก่แล้ว แก้หรือปรับอะไรยากแล้ว … อยากให้ดูผู้หญิงเยอรมันคนนี้เป็นตัวอย่าง

 

นักกอล์ฟที่อยากออกรอบตีกอล์ฟด้วย

Davis Love III เพราะตอนเด็ก ๆ ชอบ

* Devis Love III 

 

โปรกอล์ฟคนไหนที่อยากไปถือถุงให้ ( เป็นแคดดี้ให้ )

นักเรียนของเราที่สามารถพัฒนาตัวเองจนไปเป็นโปรแข่งใน PGA Tour ได้ ถ้าวันนั้นมีจริงก็อยากไปถือถุงให้เค้า

 

ฝากถึงทุกคนที่เล่นกอล์ฟ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้ปกครอง

สำหรับเด็ก….เล่นให้สนุก

ผู้ใหญ่…. เล่นให้สนุก ซ้อมให้ถูกวิธี ตีเสียก็ตีใหม่ ไม่ต้องหงุดหงิดเสียใจ เพราะกอล์ฟก็คือกอล์ฟ ตีเสียกันทุกคน Jordan Spieth ยังตีตกน้ำเลย

ผู้ปกครอง… ให้ลูกได้เล่นกีฬาที่เค้าอยากเล่น ไม่จำเป็นต้องเป็นกอล์ฟ เล่นให้สนุก ซ้อมให้สนุก เมื่อเค้าสนุกและเค้าชอบ เดี๋ยวเค้าจะหาทางเก่งของเค้าได้เอง ไม่ต้องไปบังคับให้เค้าเก่ง เพราะถ้าบังคับให้เค้าเก่ง สุดท้ายเค้าก็เลิก หรือไม่ก็เก่งแบบไม่มีความสุข สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการเลิกเล่นกอล์ฟไป

 

ชัดเจน เห็นภาพ แต่ก็ยังอยากถามคำถามสุดท้ายอยู่ดี…

 

พี่แจ๊ค แล้วอย่างหนูเรียกว่าพัฒนารึยัง ?

ก็พัฒนาตามเวลาที่ให้ แบบไม่ซ้อมก็ยังตีได้

 

โล่ง… อยากได้ยินแค่นี้แหละ

เป้าหมายต่อไปหลังจากแข่งไตรจบคือ ตีกอล์ฟ break 100 โดยพี่แจ๊คไม่ต้องช่วยดู line ให้ตอน putt !!

 

No need to make sense

 

LK

Comments

0

YOU MIGHT ALSO LIKE

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

YOHARA JIRADA

YOHARA JIRADA

Because my love of doing something or someone doesn't always need to make sense..