no need to make sense.

นิว วีระเดช ผเด็จพล

หากเราพูดถึงคำว่า ” นักโภชนาการ “
เราอาจจะคิดว่าคนเหล่านี้มักจะอยู่ตามโรงพยาบาล ศูนย์สุขภาพ หรือตาม health care ฟังดูอาจเป็นเรื่องไกลตัว ถ้าไม่ได้เป็นนักกีฬา ก็ต้องป่วยอะไรสักอย่าง ชีวิตนี้ถึงจะได้ข้องเกี่ยวกับคนเหล่านี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องโภชนาการ หรือ อาหาร มันคือสิ่งที่อยู่รอบตัวเรามาก ๆ ไม่ต่างจากอากาศที่ทุกคนต้องหายใจ ต่างกันที่  “อากาศ” ไม่มีปัจจัยอะไรทำให้มันซับซ้อนหรือเกิดความเชื่อผิด ๆ ได้เท่า “อาหาร”

บางทีการที่ทุกวันนี้โลกเราเต็มไปด้วยข้อมูล เยอะแยะไปหมด มั่วบ้าง จริงบ้างเลยทำให้เรื่องใกล้ตัวที่มันควรจะง่ายกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวจนบางครั้ง “อาหาร” ก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้เรา ต้องนั่งเกาหัวแล้วไม่พูดอะไรดีกว่า

วันนี้เกดเลยชวนคนสนิท มาพูดคุยกันถึงเรื่องอาหาร เพราะอยากให้คนที่อ่านมีมุมมองเรื่องอาหารที่ถูกต้องตามหลักวิชาการหรืออย่างน้อย ก็มีข้อมูล support เชิงวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้

จากคนที่ไม่มีภาพการเป็นเทรนเนอร์ของตัวเองอยู่ในหัวเลย แต่ทุกวันนี้ นิว พี่นิว ครูนิว หรือโค้ชนิว วีระเดช ผเด็จพล  คือ ชายหนุ่มอายุ 35 ที่มีหน้าที่และต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ทั้ง สอน nutrition ที่สถาบัน FIT Thailand ไหนจะมียิมที่ต้องรับผิดชอบอย่าง Fit-D Fitness อีก 3 สาขา รวมถึงเดินทางไปบรรยายเรื่องสุขภาพ และอาหาร ให้กับองค์กรต่าง ๆ และเป็นที่ปรึกษาเรื่องอาหาร และสุขภาพ ให้กับทั้งนักกีฬาอาชีพ หรือแม้แต่คนทั่วไปที่อยากมีสุขภาพดีอีกด้วย

 

 

อะไรเป็นตัวจุดประกายให้นิวสนใจเรื่องอาหารจนต้องไปเรียนต่อด้านโภชนาการที่อังกฤษ

ต้องเรียกว่าจับพลัดจับผลูมาก เพราะผมไม่ได้เป็นคนมีแพลนล่วงหน้าเหมือนคนอื่น แต่ผมจะทำไปทีละ step พอถึงทางแยกก็ค่อยไปคิดต่อ แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ถือว่ามันคือความโชคดีแล้วกันเพราะผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องการเรียนตั้งแต่สมัยอยู่มหา’ลัยเท่าไหร่เพราะตอนนั้นเทรนเนอร์ไม่ใช่อาชีพที่ popular เท่าสมัยนี้ อีกอย่างสมัยก่อนเทรนเนอร์ต้องเต้นแอโรบิคได้ หรือไม่ก็ต้องสอนว่ายน้ำได้ ซึ่งผมทำไม่ได้ทั้งสองอย่าง ฉะนั้นภาพเทรนเนอร์ในหัวตอนนั้นเรียกว่าตัดออกไปเลย แล้วเผอิญมารู้จักกับสถาบัน FIT Thailand สถาบันที่สอนเทรนเนอร์ ตอนนั้น FIT Thailand ก็ เพิ่งเปิดใหม่ ตอนนั้นเค้าก็ no name เหมือนกัน ผมก็ไม่รู้จักก็เลยลองเข้าไปทำก็เลยได้เห็นภาพเทรนเนอร์จริง ๆ ที่เค้ารักการเรียน และได้ลองเรียนหลักสูตรของ ACE (American Council on Exercise) เราก็รู้สึกว่าเห้ย มันสนุกกว่าที่เรียนในมหา’ลัยเยอะมากเลย พอลองเรียนแล้ว ก็ตั้งใจสอบใบเซอร์ของ ACE ซึ่งสมัย 8- 9 ปี ก่อน น้อยคนนะที่จะมีใบเซอร์ ก็เลยลองทำเป็นเทรเนอร์ดูดีกว่า แล้วพอทำจริง ๆ มันรู้สึกว่าการได้เห็นคน ๆ นึงพัฒนาขึ้นมา มันดีเนอะ คนบางคนไม่เคย squat ได้เลย จนอยู่มาวันนึงเค้าทำได้ หรือคนบางคนไม่เคยลดน้ำหนักได้เลย แล้วพอวันนึงเค้าทำได้…มันรู้สึกดีจริง ๆ

 

แล้วอะไรคือจุดเปลี่ยนให้สนใจด้านโภชนาการ

ผมเบื่อความเป็นเทรนเนอร์ เทรนเนอร์สมัยก่อนเหมือนเป็นเซลล์ 70 % อีก 30 % ที่เหลือเป็น เทรนเนอร์ พอมันเบื่อตรงนั้นปุ๊บ เลยคิดว่าเราควรทำอย่างอื่นเพิ่ม ตอนนั้นก็เหมือนมาถึงทางแยกว่าเราจะเรียนโทด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเพิ่มดีมั้ย หรือ เราจะไปเรียนเหมือนคนปกติดี อย่างพวก MBA ไปสาย Business เลยดี แต่พอไปปรึกษา คุณซูซาน (ผู้ก่อตั้งสถาบัน FIT Thailand ) คุณซูซานบอกว่าจะบ้าเหรอ จะไปเรียน MBA ทำไม มาขนาดนี้แล้ว คุณซูซานเลยแนะนำว่าในอนาคตเรื่องโภชนาการ เป็นสิ่งที่กำลังมานะ แล้วผมเองก็คิดว่ามันก็น่าสนใจ

 

 

คุณ Suzanne Hosley ,  CEO at Fitness Innovations (Thailand) Ltd ( FIT)

 

แสดงว่าคุณซูซานคือคนแรกในชีวิตที่ไกด์เรา

ใช่ ! ผมเป็นคนเชื่อเรื่อง mentor ผมเชื่อว่าคนเราต้องมีคนไกด์ ไม่ใช่แค่คุณซูซาน ต้องบอกว่าทั้งสถาบัน FIT Thailand ที่ไกด์ให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้ ถึงบอกว่าผมโชคดี เพราะทุกครั้งที่เจอทางแยกก็จะมีคนคอยมาไกด์ผมตลอด พอไปเรียนต่อก็ได้เห็นการพัฒนาของตัวเองเหมือนไปเปิดโลก แล้วจังหวะนั้นวิทยาศาสตร์การกีฬาก็ค่อย ๆ โตขึ้น  แม้แต่ในบ้านเราเองก็โตขึ้นเยอะมาก สังเกตจากคนที่เข้ามาเรียนที่ FIT Thailand ช่วง 3 ถึง 5 ปีที่ผ่านมา คนที่มาเรียนเพื่อจะเป็นเทรนเนอร์มีเยอะมาก แถมตอนนี้ไม่ใช่มีแต่คนที่จะเป็นเทรนเนอร์เท่านั้นถึงจะเข้ามาเรียน เดี๋ยวนี้คนธรรมดาก็เข้ามาเรียน บางคลาสนี่เป็นคนทั่วไป 100 % ไม่มีเทรนเนอร์เลยยังมี อย่างพี่เกดเองยังเข้ามาเรียนเลย

 

ทำไมไปเรียนที่อังกฤษ

ด้วยเมืองที่อยู่คือ Leeds เนี่ย มันเป็นเมืองกีฬา ส่วนมหา’ลัยที่อยู่ (Leeds Beckett University) ก็มีความน่าเชื่อถือของด้านนี้ระดับนึงก็เลยไป แล้วที่นั่นมี course ปริญญาโท Sport & Exercise Nutrition แล้วพอดีว่าตอนนั้นไปเรียนภาษาที่นั่นด้วย ทุกอย่างมันลงตัวแล้ว ไม่อยากย้ายแล้ว เหมือนเรารู้จักคน รู้จักถนน รู้จักสถานที่แล้ว ก็เลยเรียนที่นี่ ส่วนความรู้ด้านอาหารตอนนั้นก็มีในระดับนึงเท่าที่เทรนเนอร์คนนึงควรจะมี แต่พอไปเรียนเพิ่มมันทำให้เราเห็นมุมมองที่กว้างขึ้น อย่างเมื่อก่อนอาจจะเห็นแค่ 1+1 เป็น 2 แต่พอไปเรียนแล้วมันได้เห็นว่ามันก็มีหลากหลายวิธี และมีรายละเอียดอื่น ๆ อีกเยอะมาก

 

แล้ว sport exercise nutrition กินเหมือนหรือต่างกับคนทั่วไปยังไง

ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายสำหรับนักกีฬา หรือเพื่อสุขภาพ มันต้องมีรากฐานจากการกินเพื่อให้สุขภาพดีก่อน คุณจะเป็นนักกีฬาที่ดีได้คุณต้องมีสุขภาพโดยรวมที่ดีก่อน เพียงแต่ว่า “ปริมาณ” กับ “ช่วงเวลา” ในการกินสำหรับนักกีฬาที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง หรือบางทีในเชิงของ sport เราอาจจะกินบางอย่างที่คนทั่วไปมองว่าไม่ healthy เช่น น้ำตาลที่คนทั่วไปที่รักสุขภาพเค้าไม่กิน แต่ในเชิงของ “กีฬา”  น้ำตาลคือตัวให้พลังงาน แต่เค้าต้องเลือก timing ในการกิน มันก็แตกต่างกันแค่บางมิติเท่านั้นเอง แต่พื้นฐานยังไงก็ตามนักกีฬาก็ต้องการความมีสุขภาพดีเหมือนกัน

 

การแข่งขัน ” โคตรฟิต ไทยแลนด์ 2020 “

 

การที่ทุกวันนี้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลเองได้ง่าย ๆ แบบนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าข้อมูลพวกนั้นเชื่อถือได้ หรือควรเลื่อนผ่านไป

อันดับแรกข้อมูลนั้นต้องไม่มาตัดสินว่าเราควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไร ข้อมูลที่ได้มาไม่ควรตีกรอบแคบ ๆ มันควรจะเป็นข้อมูลที่ให้เราไป explore ต่อหรือ ได้เรียนรู้ต่อ หรือได้ลองทำมากกว่า แล้วผมมองว่ามัน ควรพูดเรื่องพื้นฐานมากว่าเรื่องของเทคนิค คือถ้าคุณพูดว่า ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรกินอาหารแปรรูป ผมว่าแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ make sense กว่าเทคนิค โน่น นี่ นั่น เพราะคนทั่วไปก็ไม่ควรจะต้องไปเริ่มด้วยเทคนิคก่อนพื้นฐาน 

 

แต่คนส่วนใหญ่ชอบเทคนิค โดยเฉพาะพวก ลดไขมันได้เยอะ ๆ ภายใน 1 เดือนพร้อมรูปประกอบ before & after

เพราะเค้ารู้สึกว่ามันจับต้องได้ มันตรงกับเค้า เช่น before คือ อ้วน แต่ถ้าเราเอา before เป็นคนที่ผอมอยู่แล้ว เค้าก็อาจจะบอกว่า “เอ้า ! ก็มึงผอมยู่แล้วหนิ ! เค้าก็อาจจะเชื่อคนที่อ้วนแล้วน้ำหนักลงมาได้มาก ๆ มากกว่าไง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา เหมือนเรายังชอบคนสวยคนหล่อเลย ฉะนั้นเราก็ทำได้แค่ให้ความรู้เค้าว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่

 

พูดถึงรูปแบบการกินที่คนพูดถึงกันเยอะ ๆ มั่งดีกว่า เห็นคนแชร์ ทั้ง IF ทั้ง คีโต มีคนใกล้ตัวนิว กินอะไรแบบนี้บ้างหรือยัง

ผมว่า IF ( Intermittent Fasting ) ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเค้าไม่ได้จำกัดสารอาหาร เค้าจำกัดช่วงเวลากินมากกว่าแล้วจริง ๆ มนุษย์ทุกคนก็ fasting กันอยู่แล้วตอนนอน ถ้าใกล้ตัวยังไม่มีใครกิน “IF”  ส่วน “คีโต” ผมว่าเค้าอาจจะไม่กล้าบอกผมว่าเค้ากินคีโต เพราะกลัวเจอผมด่าแน่นอน  (หัวเราะ)

 

คีโตคืออะไร

คือการกินไขมันในปริมาณที่มาก แล้วกินคาร์โบไฮเดรตน้อยมาก ๆ พอร่างกายไม่มี คาร์โบไฮเดรต ร่างกายก็ต้องพยายามหาแหล่งพลังงานอื่นมาใช้ ร่างกายก็เลยสลายไขมันมาใช้ ก็เลยกลายเป็น ketone body เหมือนทำให้มันยากเข้าไว้ซึ่งคนจะชอบ เพราะว่า ketogenic diet จะลดน้ำหนักได้เร็วมาก เพราะเวลาที่เรากินคาร์โบไฮเดรตเข้ามา ร่างกายเราจะเก็บพลังงานจากแป้งในรูปแบบของ glycogen ทีนี้ใน glycogen ก็มีน้ำด้วย ฉะนั้นเวลาที่เราไม่กินแป้งเนี่ย glycogen มันก็จะหายไป ซึ่งน้ำก็จะหายไปด้วย ฉะนั้นใครที่ทำ ketogenic diet ช่วงแรก ๆ เค้าจะฮือฮามาก เพราะแบบ โห! น้ำหนักลง 5 กิโล ใน 3 วัน  !  7 กิโล ใน 7 วัน ! ซึ่งในความเป็นจริงมันมีน้ำในร่างกายด้วยที่หายไป เหมือนคุณเอาน้ำออกจากร่างกายคุณก็เบาลง

 

แข่งครอสฟิตรายการ Bangkok Throwdown 2019 (photo by Christopher Wadsworth)

 

ในความเป็นจริงมีคนไม่กินแป้งตลอดชีวิตได้ด้วยเหรอ

ไม่มี… จริง ๆ ในเชิงทางการแพทย์เค้าจะเอา ketogenic diet มาใช้เพื่อทำให้คนที่อ้วนมาก ๆ น้ำหนักลงมาในระดับนึง แล้วค่อยปรับไปทำแบบอื่นต่อ แต่คนทั่วไปดันเอามาทำตลอดเวลา 1 ปี 2 ปี 3 ปี แบบนั้นมันไม่สมควร ความจริงแล้วคนที่เค้าเป็นสายกีฬา หรือคนที่เค้ามีความเข้าใจ ketogenic diet เค้าจะมีการเติมคาร์โบไฮเดรตด้วย แต่เป็นบางวัน หรือทำ carb cycling ด้วย แต่พอคนทั่วไปทำวิธีนี้โดยไม่มีความรู้เลย มันก็จะเป็นแบบไม่กินแป้งเลย ซึ่งผมว่ามันไม่ make sense แล้วอีกอย่างเราก็เรียนมาตลอดทั้งชีวิตว่าคาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารนึงที่มีความสำคัญต่อร่างกาย

 

อีกหนึ่งกิจกรรมโปรดตอนนี้นอกจากวิ่ง คือ  surf skate

 

ฟังดูมันเป็นอะไรที่ให้ผลแบบ short term มาก ถ้าในเมื่อเรารู้ว่า ร่างกายต้องการแค่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมันดี แค่นี้ไม่พอเหรอ

เพราะมันช้า การที่เราทำถูกต้อง มันช้า เหมือนมันเห็นผลช้า ถ้าเทียบกับ ketogenic น้ำหนักตัวมันหายไปเร็ว คนจะตื่นเต้นกับมัน ตื่นเต้นกับน้ำหนักที่หายไป แต่เค้าไม่ได้รู้เบื้องลึกว่ามันคืออะไร เค้ามองแค่เรื่องน้ำหนักตัวอย่างเดียว เค้าอาจจะยอมทรมาร ยอมหงุดหงิด ยอมที่จะเข้าสังคมยากขึ้น เค้ายอมทุกอย่างเพื่อแลกกับน้ำหนักตัวที่ลดลงในช่วงแรกซึ่งจริง ๆ แล้วอะไรที่ทำได้ไม่ยาว…อย่าทำ

 

ตั้งแต่สอน nutrition ที่ FIT Thailand มา เคยเจอคำถามอะไรที่เบื่อที่สุด

อันนี้กินแล้วอ้วนมั้ย ? ( หัวเราะ )  เราก็ต้องสูดหายใจลึก ๆ  และตอบว่า “ไม่อ้วนครับ ขึ้นอยู่กับปริมาณ”

 

ที่ FIT Thailand กับนักเรียนที่เรียนจบ course nutrition กับนิว

 

mindset เรื่องออกกำลังกายอะไรที่ไม่ชอบเลย

กินก่อนแล้วค่อยไปใช้กรรมตอนออกกำลังกาย เหมือนเราเอาความสุขไปผูกกับความทุกข์ อยากให้เปลี่ยนความคิดใหม่ว่ามันไม่ใช่ทั้งสุขหรือทุกข์ แต่มันคือสิ่งที่เราต้องทำทั้งสองอย่างควบคู่กัน แล้วก็ไม่อยากให้คนมองเรื่องของน้ำหนักตัวอย่างเดียว หรือที่คนชอบบอกว่าเราสามารถลดน้ำหนักได้ โดยไม่ต้องออกกำลังกายก็ได้ ซึ่งมันก็เป็นไปได้นะ แล้วเรื่องสุขภาพดีแบบองค์รวมล่ะ ? คุณจะไม่ให้ความสำคัญด้วยเหรอ ?  ซึ่งอันนี้มันคือต้องออกกำลังกายไง เพราะการออกกำลังกายมันทำให้เราแข็งแรง มันทำให้เรามีความสุขกับชีวิต มันคือ wellness

 

ความภูมิใจในอาชีพ

ผมมองว่าการที่เราเป็นคน ๆ นึงที่มีประโยชน์ต่อสังคมบ้างระดับนึง หรือเป็นคนจุดประกายให้คนอื่นทำสิ่งที่ถูกต้องมากขึ้น ไม่ต้องถึงขนาดได้รับรางวัลอะไรใหญ่โตแต่การที่คน ๆ นึงมาบอกเราว่าเค้าทำอันนี้แล้วเค้าใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมากเลย หรือเค้าทำอันนี้แล้วมันมีประโยชน์สำหรับเค้า การที่ผมเห็นคน ๆ นึงเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้โดยที่เค้าไม่รู้สึกว่ามันทรมาร อันนี้เป็นความภูมิใจสูงสุดของผม

Fit-D Fitness สาขา รัชดา

 

อาหารที่กินซ้ำบ่อยที่สุด

ผมกินข้าวขาหมูแม่ได้ตลอด ก่อนที่จะมาเป็นอิสลาม (หัวเราะ)

 

มุม olympic lift ที่ยิม Fit-D Fitness สุขุมวิท 39

 

เคยมีคนใกล้ตัวเรากินไม่ดีจนเราหงุดหงิดมั้ย

ผมจะไม่ค่อยเบรคใคร จะไม่ไปบอกใครว่าอันนี้ไม่ควรกินนะ คือถ้าเค้ามีความสุขกับชีวิตหรือมีความพอใจในรูปร่างเค้าผมจะไม่บอกอะไร แต่ผมจะซีเรียสมากขึ้น ถ้าเค้าอยากลดไขมัน แต่เค้ากินไม่ดี เหมือนพูดกับเราว่าอยากลดน้ำหนัก แต่กินชานมไข่มุก กินเบคอน กินไส้กรอก

 

ตั้งแต่ออกกำลังกายมาทำให้พี่รู้ว่าการเป็นเทรนเนอร์มันต้องใจเย็น และอดทนสูงมาก คือพี่เป็นเทรนเนอร์ไม่ได้แน่นอน เพราะพี่จะหงุดหงิดเวลาเค้าทำไม่ได้… นิวทำได้ยังไง 

ต้องเข้าใจก่อนว่ามนุษย์เรามีการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน บางคนเรียนรู้จากการฟังได้ดี บางคนเรียนรู้จากการมองได้ดี บางคนเรียนรู้จากจินตนาการได้ดี และต้องเข้าใจก่อนว่าคนเราเริ่มต้นไม่เท่ากัน ใครมันจะเหมือนพี่เกด ที่ตอนเด็กพี่อยากเตะบอลกับพี่ชาย แต่พี่เป็นผู้หญิงเค้าเลยให้พี่ไปเป็น goal พี่เลยโชคดีที่ได้รู้จักการเคลื่อนไหวร่างกายตั้งแต่เด็กจากการเป็น goal  ฉะนั้นเราต้องไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เราต้องมองในมุมที่เป็นเค้า ไม่ใช่มองในมุมเรา ซึ่งผมว่ามันอยู่ที่ประสบการณ์ แรก ๆ อาจจะมีหงุดหงิดบ้างแต่เราก็ต้องมีความเห็นอกเห็นใจเค้า

 

“Fit-D Werewolf Pack 21 Days Fat loss Challenge” เป็นอีกหนึ่ง Project ของ Fit-D Fitness ที่เป็นโปรแกรมแบบ online

 

ตอนนี้มีเป้าหมายด้านกีฬาอะไรมั้ย

วิ่ง 10 กิโล ต่ำ 50 นาที

 

ความเชื่อเรื่องอาหาร หรือ ความเชื่อเรื่องการออกกำลังกาย
อะไรที่อยากให้หมดไปจากโลกนี้สักที

กินแป้งทำให้อ้วน กับ ต้องวิ่ง เกิน 30 นาที ร่างกายถึงจะเอาไขมันมาใช้ เพราะในความเป็นจริงแล้วร่างกายใช้ไขมันตลอดเวลา แต่จะใช้มาก ใช้น้อย มันขึ้นอยู่กับความหนัก ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับระยะเวลา

รางวัล Personal Trainer of The Year จากงาน Asia Fitness Conference 2018

 

มีคำพูดของใครที่เราเคยได้ยินแล้วมีผลกับการใช้ชีวิตเราบ้าง

คนเราเติบโตจากความผิดพลาด เราได้เรียนรู้จากการลงมือทำ แต่ถ้ามันล้มเหลวเราก็แค่ทำซ้ำ ยิ่งเราล้มเหลวเร็ว เราก็จะฉลาดขึ้นเร็ว แต่ไม่ใช่ว่าเราล้มเหลวกับเรื่องเดิม ๆ นะ คือถ้าผิดก็ต้องเรียนรู้และพัฒนา กับอีกประโยคนนึงที่ชอบจนอยากไปสักไว้ที่ตัวคือ

“ Do your best and God will do the rest “  คือแค่เราลงมือทำสิ่งที่เรา control ได้ให้มันดีที่สุดก็พอ ส่วนอะไรที่เรา control ไม่ได้ก็ปล่อยไป

 

กับคุณ  Suzanne Hosley และรางวัล Personal Trainer of The Year จากงาน Asia Fitness Conference 2018

 

 

หลังจากคุยกับนิวจบ ทำให้เกดอดไม่ได้ที่จะนึกถึงประโยคนึง ที่มีคนเคยบอก และมีผลกับชีวิตเกดเหมือนกัน

 ” ระหว่างปัญหาเรื่องงาน กับ ปัญหาเรื่องความรัก หรือต่อให้เอา 2 ปัญหานี้มารวมกันก็ตาม เชื่อเถอะว่า ยังไงก็ยังดีกว่าปัญหาด้านสุขภาพแน่นอน “

 

no need to make sense ( แต่อันนี้อะ make sense )

เขียน และ เรียบเรียง โดย จิรดา โยฮารา

ภาพโดย Chitsak P.

 

Comments

0

YOU MIGHT ALSO LIKE

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

YOHARA JIRADA

YOHARA JIRADA

Because my love of doing something or someone doesn't always need to make sense..