no need to make sense.

คุยกับ ณัช ตันติวิท 1 ใน 3 ของคนไทยที่จบ Ironman ต่ำ 11 ชั่วโมง

ทุกครั้งที่เกดได้ยินเรื่องราวของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา หรือใครก็ตามที่เกดรู้จัก เวลาที่คนเหล่านั้นไปแข่งรายการอะไรมา จะมาราธอน ไตรกีฬา 70.3 CrossFit หรือ Ironman เกดจะชื่นชมกับความสำเร็จของทุกคนเสมอ ไม่ว่าจะจบเวลาเท่าไหร่ก็ตาม เกดไม่เคยสน เพราะเกดคิดว่าสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่เวลา แต่อยู่ที่ ” ความตั้งใจ ”

ล่าสุดเกดไปงานเปิด Tri bra open house ของเพื่อนมา เลยมีโอกาสเจอน้องคนนึงด้วยความบังเอิญ ตอนนั้นเกดกำลังกินสลัดเนื้อราดน้ำจิ้มแซบอยู่ในงานอย่างเอร็ดอร่อย มันอร่อยมากจนคิดว่าจะไปขอสูตรน้ำจิ้มซะหน่อย จนในที่สุดน้ำจิ้มแซบก็จืดสนิทเมื่อ ‘นัท’ เพื่อนเกด แนะนำให้เกดรู้จักกับ ‘แนช’ 1 ใน 3 ของคนไทยที่จบ Ironman ต่ำ 11 ชั่วโมง

นัท: พี่ จะแนะนำน้องให้รู้จัก นี่ชื่อ แนช

เกดเงยหน้ามองตามเสียง…ภาพที่เห็นคือ เด็กหนุ่ม ใส่แว่น เหมือนรุ่นพี่จะมาติว ฟิสิกส์ ในละคร น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์

เกด: หวัดดีค่าาาา (หน้ายิ้ม) นี่! นัท ๆ น้ำจิ้มแซบอร่อยมากเลยอะ

นัท: อร่อยก็ดีแล้ว…..พี่ ๆ แนช คนนี้ไง ที่บอกว่าจบ Ironman 10:40 ชั่วโมง

ตอนนั้นกำลังเอ็นจอยกับน้ำจิ้มแซบอยู่ เลยไม่เข้าใจเรื่องเวลาจบ Ironman 10:40 ชั่วโมง ที่เพื่อนบอก

แต่ก็คิดว่าน้องคนนี้ก็คงเก่งเหมือนคนอื่น ๆ อะแหละ เพราะจบ Ironman ได้ สำหรับเกด เกดก็ว่าสุดยอดแล้ว

เกด: โหยยยย เก่งจังเลย!!!!

ส่วนคุณจุม สามีถึงกับร้อง…โอ้!

~นำ้จิ้มแซบอร่อยเกินไปจนเกดให้ความสนใจแต่กับอาหารที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น

นัท: แล้ววิ่งมาราธอนแรกจบเท่าไหร่นะ บอกพี่เค้า!! 

พอได้ยินคำว่ามาราธอน เกดเริ่มรู้สึกเข้าถึงขึ้นมานิดนึง

แนช: 3:45 ชั่วโมงครับ พูดเสียงเรียบ ๆ หน้ายิ้ม ๆ

เกด: โห เก่งโคตร ! 

นัท: แต่ มาราธอนแรกของแม่ง คือหลังจากที่มันว่าย 3.8 โล และปั่นมาแล้ว 180 กิโลนะพี่ !!

.

.

เกดเหลือบตามองหน้าเด็กแว่นคนเดิมอีกครั้ง

เกด: อีเหี้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! อีบ้า!!!!!!! วิ่งมาราธอน 3:45 ชั่วโมงตอนที่แข่ง Ironman เนี่ยนะ!!!!!!!!!!!!!!!! ห๊า!!!!!!!!!!!!

น้องคงไม่เคยโดยคนชมแต่เหมือนด่าเท่านี้มาก่อน

แนช : ตอนนั้นมันอากาศเย็นครับพี่ มันช่วยได้เยอะ

คุณจุม…สามีซึ่งนั่งกินเนื้อย่างอยู่ข้าง ๆ เกรงว่าเมียจะไม่เข้าใจอีกเลยอธิบายต่อ…

คุณจุม: เกด…..ที่น้องวิ่ง 3:45 ชั่วโมงนั่นอะ คือหลังจากที่เค้าปั่นระยะเท่ากับ skylane มาแล้ว 7 รอบกว่า แล้วมาวิ่ง full นะ เราปั่นเสร็จรอบนึง ยังไม่ค่อยอยากจะเดินกันเลย

ยอมใจในการเปรียบเทียบของคุณจุม ชัดเจนและเห็นภาพมาก!

 

 

 * วันนั้นที่งาน Tri bar open house พุต snatch 100 โล เคน clean & jerk 120 โล เกด ปั่นจักรยาน 20 โล เร็วเท่าเคนย่าวิ่ง half แนช ironman และ นัท 70.3 

 

“อื้อหือ! เด็กผู้ชายอายุ 24 ใส่แว่น ใส่รองเท้าแตะ คนนี้เนี่ยนะ! กูนึกว่าจะมาติวฟิสิกส์!! สุดยอด!” พูดในใจ

แต่บทสนทนายังไม่จบ…

นัท: นี่! พี่เค้าก็จบมาราธอนแรกมาแล้วนะ ใช้เวลากี่ชั่วโมงบอกน้องเค้าไป เจ๊! (ชี้มาที่เกด)

เอาล่ะ! แหม..นัท มึงไม่ต้องชงมาก็ได้! คิดในใจ คือน้องเค้าก็ไม่ได้อยากรู้ด้วย!

เกด: 6:13 ชั่วโมง รวมเวลาขี้! ตอบด้วยความภูมิใจ อิอิ

แนช: โอ้… ยิ้มแบบเขิน ๆ 

ยังไม่จบ!

นัท: นี่ ๆ ๆ ๆ พี่เค้ามีเพจด้วยนะ ชื่อ No Need To Make Sense

เกดหัวเราะพรวดทันที คิดในใจว่า แหม่…อีนัท! มึงจะให้กูอายไปถึงไหน!!!!

ทันใดนั้น เกดเหลือบตามองเห็นน้องกำลังหยิบโทรศัพท์เปิดหาเพจที่มีคนตามแค่หลักร้อย แล้วน้องก็พูดว่า… โห คนเล่นไตรตามเพจพี่ด้วย!

เกดบอกน้องทันทีว่า ” น้องไม่ต้องตามเพจพี่นะ เพราะน้องจะไม่ได้สาระหรือความรู้ใด ๆ แต่ถ้าวันไหนที่น้องรู้สึกผิดหวังหรือท้อแท้กับการแข่งขัน เมื่อน้องเปิดมาดูเพจพี่ น้องจะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา ที่ได้เห็นว่าอย่างน้อย ยังมีคนที่แย่กว่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ “

You’ve got 1 new like… เช็คโทรศัพท์ดู เอ้า! เป็นน้องมา like 

~เฮ้อ พูดแล้วไม่ฟัง

แต่ก็แอบคิดว่าถ้าน้องเห็นวีดีโอเราโดด double unders 50 ที unbroken น้องเค้าจะว๊าว มั้ยวะ ? อิอิ

นี่เหรอ Ironman 10:40 ชั่วโมง….เกดคิดในใจอยู่คนเดียวว่า น้องคนนี้แม่งไม่ธรรมดาจริง ๆ ทั้งการแต่งตัวที่ไม่ได้ need attention เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ…แต่ดูสะอาด หรือแม้แต่บทสนทนาที่ฟังดูก็รู้เลยว่าน้องคนนี้ ไม่ใช่คนขี้อวด คิดดู คนแบบไหนกัน ที่บอกว่าตัวเองวิ่ง 42 กิโล ตอนแข่ง ironman แล้วจบที่ 3:45 ชั่วโมงได้เพราะอากาศช่วย ?

เกดอยากเอาเรื่องราวของน้องมาเขียนลง blog เลยถามน้องก่อนว่าได้มั้ย หลังจากที่น้องตกลง เกดก็ได้ The Chosen One คนใหม่มาทันที

 

*ณัช ตันติวิท หรือ แนช แข่ง Ironman 70.3 ไปแล้ว 6 สนาม และ Ironman 1 สนาม ภายในปีเดียว

 

เป็น 1 ใน 3 ของคนไทยที่จบ Ironman ต่ำ 11 ชั่วโมงรู้สึกยังไง ?

ก็รู้สึกดีที่ได้เวลาดี เพราะเวลาต่างชาติเลื่อนดูผลก็จะเจอคำว่า Thailand อยู่อันดับต้น ๆ เพราะเค้าเรียงจากคนที่จบเร็วที่สุดไปคนสุดท้าย

 

เรียนด้วย ซ้อม Ironman ด้วย แบ่งเวลายังไง

ตอนนั้นเครียดมาก เพราะเป็นช่วงที่เรียนต่อปริญญาโทที่ UK ยอมรับว่าเครียดทั้งเรื่องซ้อม เรื่องเรียน ไหนจะไม่ใช่บ้านเราไปไหนมาไหนลำบาก ต้องแบ่งเวลาและคอยวางแผนดี ๆ  แต่โชคดีเพราะเมืองที่อยู่ อากาศดี ซ้อมได้ทั้งวัน บางวันเรียนเช้าจบเที่ยง รีบกลับห้องมาเปลี่ยนเสื้อลงไปวิ่งยังได้ พอช่วงบ่ายก็รีบกลับไปมหาลัย ไปทำงานกลุ่มต่อ แต่ถ้าช่วงไหนซ้อมหนักมาก ๆ บวกกับเป็น Home Sick ก็นอนไม่หลับไปเป็นอาทิตย์เลย บางช่วงก็งงเหมือนกันว่าซ้อมเข้าไปได้ยังไง อย่างช่วงหน้าหนาวของเมืองที่เรียน (Glasgow) อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 2-3 องศา ขนาดฝรั่งยังไม่ค่อยวิ่งกันเลย เค้าจะซ้อม Indoor ในยิมกัน แต่ผมก็ออกไปวิ่งข้างนอก หรือถ้าวันไหนฝนตกก็วิ่งตากฝนเลย เพราะมันตกบ่อยจริง ๆ ถ้ามัวแต่รออากาศดีคงไม่ได้ซ้อมกันพอดี แต่ถ้ามีลูกเห็บก็ต้องหยุด เพราะมันเจ็บ

 

วันแข่ง Ironman ครั้งแรก จำได้มั้ยว่าตอนนั้นคิดอะไรบ้าง 

มีคนถามตลอดว่ามีเป้ามั้ย ? อยากได้เวลาเท่าไหร่ ? คือมันก็อยากได้เวลาดี ๆ อยู่แล้ว แต่ไม่ได้เจาะจงว่าต้องต่ำกว่าเท่าไหร่หรือต้องได้เท่านี้  เพราะพ่อผมบอกเสมอว่า “Enjoy The Race”  ตอนแข่งไม่ต้องซีเรียส สนุกไว้ดีกว่า และ First Ironman ก็มีครั้งเดียว เลยอยากสนุกกับบรรยากาศให้เต็มที่ ถ้ามัวแต่กังวลเรื่องเวลา เราก็จะเสียโอกาสที่จะเก็บบรรยากาศในแต่ละโมเม้นท์ไว้ เลยคิดแค่ว่า วันที่แข่งก็คือวันที่เราต้องสนุกกับการแข่งขัน เราซ้อมมาเหนื่อยมากแล้ว วันนี้ต้องปลอดปล่อยให้เต็มที่ อีกอย่างคือ ช่วงที่แข่ง Ironman คือช่วงเรียนจบและกลับไทยพอดี ผมบินจาก UK ไปแข่งที่สวีเดน พอแข่งจบก็บินกลับไทยเลย คุณพ่อก็ตามไปเจอที่สวีเดนด้วย ช่วงนั้นก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ดีใจที่จะได้เจอคุณพ่อ และก็ดีใจที่จะได้กลับบ้าน

 

*คุณพ่อบอกเสมอว่า ” Enjoy the race “

 

สมมุติว่าวันที่แข่ง Ironman คร้งแรก ที่ Sweden มีนักข่าวไปยืนรอทำข่าวถ่ายทอดสด ทันทีที่แนชเข้าเส้นชัย นักข่าวพูดว่า “และนี่คือ 1 ใน 3 ของคนไทยที่จบ Ironman ต่ำ 11 ชั่วโมงค่าคุณผู้ชม! นักข่าวเดินเอาไมค์ไปจ่อที่ปากตอนที่เข้าเส้นชัย..ประโยคแรกที่จะพูดคือ ?

หิวมาก ขอไก่สักตัว!!!!!!!!!

 

*  Ironman Kalmar 2016  ที่ Sweden ว่ายน้ำ 3.8 km ใช้เวลา 1:12:43 ชั่วโมง จักรยาน 180 km ใช้เวลา 5:25 ชั่วโมง วิ่ง 42 km ใช้เวลา 3:43 ชั่วโมง 

 

ซ้อมหนักขนาดนี้ เคยบาดเจ็บตรงไหนบ้างมั้ย

ก็มีบ้าง จำได้ว่าเจ็บน่องอยู่นานมาก ตอนนั้นเรียนต่อต่างประเทศ หาหมอทีก็ยาก ค่าใช้จ่ายก็สูง ยืดก็แล้ว ทายาก็แล้ว หาที่รัดน่องมาใส่ก็แล้ว ก็ไม่หาย โชคดีที่ตอนนั้นมีเพจชื่อ Be Fit & Eat Well ของพี่เอิร์นเพิ่งเปิดใหม่ ๆ เค้าเขียนเกี่ยวกับการบาดเจ็บน่องพอดี ก็เลย inbox ไปปรึกษา และมารู้ทีหลังว่าเค้าอยู่ที่ UK เป็นเทรนเนอร์ใน London อีกก็เลยได้ปรึกษากันยาวเลย ส่วนเท้าพองก็เคย เจ็บจนแทบจะซ้อมวิ่งไม่ได้เลยก็มี สุดท้ายไปอ่านในเน็ต เค้าแนะนำให้ใช้แผ่น ENGO แปะที่รองเท้าก็หาย ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ จริง ๆ ช่วงไม่นานนี้ก็มีเจ็บรองช้ำก็ไปซื้อลูกบอลนวดที่ Avarins กับซื้อ Moji Massager จากอเมริกามาใช้ ก็ดีขึ้นเยอะ ก็เจ็บมาเยอะเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ ฮ่า ๆ ๆ

มีตอนไหนอยาก give up บ้างมั้ย แบบไม่เอาแล้วเลิก!

ก็คงไม่ถึงขั้น Give Up แต่บางช่วงที่เหนื่อยมาก ๆ ก็อยากซ้อมเบาลงบ้างแต่ไม่ได้ถึงขั้นแบบเลิกเล่นไปเลย เพราะช่วงนั้นมันก็เครียดเรื่องวิทยานิพนธ์ที่ทำอยู่ด้วย และก็เรื่องซ้อมด้วย จำได้ว่าช่วงไหนเซ็ง ๆ ก็จะเดินไปร้านบุฟเฟ่ต์อาหารจีนในเมือง เพราะบุฟเฟ่ต์สามารถเยียวยาทุกสิ่ง ฮ่า ๆ ๆ

Processed with VSCO with k2 preset

 

* ผมเคยเห็นคนอายุ 80 มาแข่ง 70.3 ตอนนั้นก็แอบคิดว่าเราจะมีโอกาสเล่นไตรถึงอายุเท่านี้มั้ย 

 

แผนการแข่งปีนี้มีอะไรบ้าง เพื่อน ๆ จะได้ติดตามและส่งกำลังใจเชียร์

ปีนี้ที่สมัครไปแล้วคือแข่ง Ironman 70.3 ที่เวียดนาม กับสนาม World Champ Ironman 70.3 ที่ South Africa ส่วนระยะ Ironman ปีนี้ไปที่ Klagenfurt ประเทศ Austria และก็กำลังดูสนามอื่น ๆ ที่น่าไปอยู่เหมือนกัน ปีนี้น่าจะเบา ๆ ลงบ้างแล้ว เพราะปีที่แล้ว แข่ง Ironman 70.3 ไป 6 สนาม Ironman ไป 1 สนาม มันใช้เวลาและใช้เงินเยอะมาก

 

Ironman ที่จะแข่งในปีนี้มีเป้าหมายอะไรมั้ย 

เป้าหมายก็คงอยากไปเอาบรรยากาศใหม่ ๆ และก็สนุกกับการแข่ง คือจริง ๆ ตอนแรกวางแผนว่าจะไปแข่งที่สวีเดนที่เดิม แต่พอดีอยากให้ที่บ้านไปที่ใหม่ ๆ ด้วยเลยเปลี่ยนเป็นออสเตรีย เห็นเค้าบอกว่าสนามนี้สวย คือผมรู้สึกว่าผมก็แข่งมาหลายสนาม หลายประเทศ แข่งทุกครั้งมันก็มีบทเรียนให้เรียนรู้ใหม่ทุกครั้ง มันก็เป็นความสนุกอีกแบบที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ด้วย

มีใครเป็นโค้ชให้

ไม่มีครับ เพราะอย่างที่บอกคือไปเรียนต่อ กลัวว่าถ้าได้ตารางซ้อมจากโค้ชแล้วจะไม่สามารถทำได้ตามตารางเพราะไหนจะเรื่องเรียน กับที่ที่เราอยู่ไม่ใช้บ้านเราอีก ทำให้ซ้อมแต่ละทีมีข้อจำกัดครับ อีกอย่างทุกวันนี้นาฬิกาที่ใช้ช่วยให้เราวางแผนการซ้อมได้เองเยอะขึ้นครับ ตอนนี้ใช้ Suunto พอซ้อมเสร็จก็บอกค่าได้เยอะมาก ซึ่งทำให้เรารู้จุดแข็งจุดอ่อนและประเมินร่างกายเราได้ง่ายขึ้น เพื่อเอาไปปรับใช้กับการซ้อม แล้วก็ขอคำแนะนำจากพี่ ๆ ครับ หรือถ้าได้เจอคนเก่ง ๆ ก็ถามเค้าเรื่องการซ้อมการกินและก็หาความรู้ในอินเตอร์เน็ตนี้แหละครับ ทุกวันนี้บทความดี ๆ ในอินเตอร์เน็ตเยอะมากครับ อ่านไปก็เพลินดี

เวลาแข่งกลัวอะไรมากที่สุด แบบ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย

กลัวจักรยานมีปัญหาสุด ๆ ต้องยอมรับว่าจักรยานนี่ปัญหาจุกจิกเยอะมาก เดี๋ยวยางแตก เดี๋ยวผ้าเบรคถูล้อ ก็ต้องเช็คดี ๆ ก่อนแข่ง เคยแข่งที่ฮังการี ยางแตก 2 รอบ แล้ววาล์วสูบลมเกิดมีปัญหา สรุปเติมลมไปได้ครึ่งเดียว ก็ต้องปั่นแบบลมครึ่งเดียวไปตลอดระยะทางที่เหลือ อย่างครั้งล่าสุดที่ไปแข่งที่ Australia มันเป็นสนามที่ต้องขึ้นเขาเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ผมดันใส่ใบจานหน้าใหญ่ไป ทำให้อัตราทดของเฟืองไม่เหมาะกับการขึ้นเขา เหนื่อยมากครับตอนนั้น ฮ่า ๆ ๆ คือเรื่องแบบนี้มันเกิดได้ตลอด เราต้องทำใจและเตรียมพร้อมรับมือกับมัน

 

* อีก 100 เมตรเข้าเส้นชัยที่งาน บางแสนไตรล่าสุดที่ไปแข่งมาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561

 

* ผลงานล่าสุดที่งาน บางแสนไตร ได้อันดับหนึ่ง รุ่นอายุ 25-29 ปี ระยะ Master ว่ายน้ำ 1.5k ปั่นจักรยาน 85k และวิ่ง 15k

 

สำหรับแนช ความสนุกของ Iroman อยู่ตรงไหน ?

ตรง ‘ความท้าทาย’ เพราะมันคือส่วนนึงของความสนุก เหมือนตอนวิ่งใหม่ ๆ เราก็วิ่ง 5 โล 10 โล  จำได้ว่าวิ่ง 20 โล ก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว ทีนี้ได้ยินว่าเค้ามีแข่งวิ่งมาราธอนเราก็คิดแบบว่าโห 42 โล ตอนนั้นมาราธอนก็ว่าสุดแล้วนะ แต่พอมาเจอ Ironman มันคือต้องวิ่งมาราธอนหลังจากว่ายน้ำ 3.8 กิโล และก็ปั่นจักรยานต่ออีก 180 โล เลยทำให้รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่สุดมาก แต่อีกส่วนนึงของความสนุกก็คือการได้เจอคนที่ชอบอะไรแบบเดียวกัน ได้เจอรุ่นพี่รุ่นน้องและก็เพื่อนรุ่นเดียวกันที่ชอบเล่นไตรเหมือนกัน ได้ชวนกันไปแข่งสนามในต่างประเทศด้วยกันมันก็สนุกไปอีกแบบ หรือบางทีเวลาไปแข่งต่างประเทศก็ได้เพื่อนต่างชาติอีกด้วย

* HUUB High performance Triathlon Gear

 

ทำไมพี่ทำไม่ได้แบบแนช เราต่างกันตรงไหน ตรงที่แนชไม่กินปลาร้าเหรอ! 

ฮ่า ๆ ๆ ผมซ้อมเยอะมากครับพี่ ซ้อมจนจะเป็นลม 

.

.

หลายคนน่าจะคิดเหมือนเกดตอนแรกว่าเด็กคนนี้มันต้องไม่ปกติแน่ ๆ คนบ้าที่ไหนจะแข่ง 70.3 มา 6 สนาม แข่ง Ironman อีก 1 สนามภายในปีเดียวกัน แต่สุดท้ายเกดก็รู้แล้วว่า เด็กคนนี้ก็เป็นคนปกติเหมือนกับพวกเรานั่นแหละ ต่างกันแค่เค้า ‘ซ้อมจนจะเป็นลม’ เท่านั้นเอง

หลังจากที่เขียนเสร็จ เกดหันไปพูดกับสามีว่า ” คุณจุม… เกดอยากแข่ง Ironman เกดอยากได้ยิน Mike Reilly พูดว่า

JIRADA YOHARA, YOU ARE AN IRONMAN!!!!!​ ”

คุณจุม ยิ้มแล้วพูดว่า ” นั่นคือต้องปั่น skylane 7 รอบกว่า ๆ แล้วลงมาวิ่ง Full ต่อนะ “

ตื่นข่ะ !

No Need To Make Sense

 

LK

Comments

0

YOU MIGHT ALSO LIKE

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

YOHARA JIRADA

YOHARA JIRADA

Because my love of doing something or someone doesn't always need to make sense..